
การจัดฟันเด็กและวัยรุ่น
การจัดฟันเด็กและวัยรุ่น คืออะไร
การจัดฟัน เป็นกระบวนการทางทันตกรรม เพื่อรักษาความผิดปกติของการเรียงฟัน การสบฟัน รวมไปถึงปัญหาที่เกี่ยวกับขากรรไกรที่สัมพันธ์กับใบหน้า เพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหาร ลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดฟันผุ หรือโรคเหงือก อันเนื่องมาจาก ฟันเรียงตัวผิดปกติ และหลีกเลี่ยง การเกิดรอยสึกของฟันจากการเรียงฟัน หรือการสบฟันที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงเรื่องของการสร้างความสวยงามของรูปหน้าและความมั่นใจของคนไข้ภายหลังการจัดฟัน
โดยการจัดฟันตามวัยในช่วงเด็กและวัยรุ่นนั้นจะมีประโยชน์เด่น คือ “ฟันเลื่อนเร็ว” และ “ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าและขากรรไกรได้” เนื่องจากคนไข้ยังอยู่ในช่วงที่มีการเจริญเติบโต นอกจากนี้ผลข้างเคียงจากการจัดฟันก็ค่อนข้างน้อย เนื่องจากคนไข้สามารถฟื้นตัวได้ดีและฟันมีลักษณะที่สมบูรณ์ ยังไม่ได้ถูกใช้งานหนักหรือมีการบูรณะมาก่อน
ลักษณะการสบฟันที่ผิดปกติ
-
ฟันซ้อน
-
ฟันขึ้นผิดตำแหน่ง
-
ฟันสบคร่อม
-
ฟันสบเปิดหรือฟันสบลึก
-
ฟันหรือลักษณะขากรรไกร ดูผิดสัดส่วน
-
รูปหน้าที่คางเล็กหรือคางยื่นผิดปกติ
-
ลักษณะการกัดหรือบดเคี้ยวอาหารได้ลำบาก
-
เด็กที่มีนิสัยเกี่ยวกับช่องปากที่ผิดปกติ เช่น กัดเล็บ ดูดนิ้ว หรือชอบหายใจทางปาก เป็นต้น
จัดฟันได้ตอนอายุเท่าไหร่
ผู้ปกครอง หากพบว่าลูกหลานของท่าน มีปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติและอาการอื่น ๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้น ควรได้รับการตรวจจากทันตแพทย์จัดฟัน ได้ตั้งแต่ “อายุ 7 ขวบ” เพื่อทำการรักษาต่อไป โดยความเหมาะสมของอายุในการจัดฟัน ทันตแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยขึ้นอยู่กับว่ามีปัญหาฟันหรือปัญหาขากรรไกร
หากมีปัญหาฟัน สามารถเริ่มแก้ไขได้ตั้งแต่ฟันหน้าบนขึ้นครบ 4 ซี่ หรืออายุประมาณ 8 ปีขึ้นไป แม้มีฟันน้ำนมอยู่ก็สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ฟันแท้ขึ้นครบก่อน เพราะหากเริ่มแก้ปัญหาฟันตั้งแต่อายุยังน้อย จะช่วยให้เมื่อโครงสร้างฟันได้ดี เมื่อฟันน้ำนมเปลี่ยนไปเป็นฟันแท้จะแก้ไขได้ง่ายมากขึ้น
แต่หากมีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของขากรรไกร ในเคสที่ขากรรไกรล่างยื่น ก็ต้องผ่าตัดขากรรไกรร่วมด้วย บางครั้งอาจต้องผ่าตัดขากรรไกรบนและล่าง พร้อมเสริมคางไปด้วย ผู้ปกครองสามารถเริ่มต้นปรึกษาเรื่องฟันของลูกหลานได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะช่วยรักษาและป้องกันการเจริญเติบโตของขากรรไกรที่ผิดปกติได้ โดยสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจัดฟัน คือ ช่วงอายุประมาณ 10 -15 ปี เนื่องจาก อยู่ในช่วงวัยรุ่น ร่างกายกำลังเจริญเติบโตได้ดี และมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด ทำให้ฟันมีการเคลื่อนที่ได้ง่าย จึงเป็นประโยชน์ต่อการจัดฟัน การจัดฟันสำหรับเด็ก อาจไม่จำเป็นสำหรับเด็กทุกคน แต่จะเป็นการดี หากพ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกหลานไปตรวจเช็คฟันตามปกติ เพื่อประเมินความจำเป็นของการรักษาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ระยะของการจัดฟันในเด็กและวัยรุ่น
สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะด้วยกัน ดังนี้
-
Interceptive Treatment : เป็นช่วงระยะการจัดฟันในเด็กในชุดฟันผสม (mixed dentition) อายุ 7-11 ปี เพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาความผิดปกติภายในช่องปากบางอย่างให้มีน้อยลงหรือหมดไป ทำให้การจัดฟันในชุดฟันแท้สามารถทำได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสการถอนฟันที่ไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการผ่าตัดขากรรไกรในอนาคต
-
Comprehensive Treatment : เป็นช่วงระยะการจัดฟันในเด็กหรือวัยรุ่นที่มีฟันแท้ขึ้นเกือบครบแล้ว (late mixed dentition-to-permanent dentition) อายุ 10-15 ปีและจัดเพื่อแก้ไขปัญหาฟัน ใบหน้า และกระดูกขากรรไกร ในช่วงระยะเวลาที่คนไข้กำลังเจริญเติบโต
ส่วนในวัยผู้ใหญ่ การจัดฟันแก้ไขได้เฉพาะความผิดปกติของตำแหน่งฟัน ฟันเลื่อนได้ช้ากว่าและมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงสูงกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของเหงือกร่น และช่องว่างระหว่างฟัน

การเตรียมตัวของคุณพ่อคุณแม่ สำหรับจัดฟันในเด็ก
การจัดฟันในเด็กนั้น ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน
ผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกจัดฟัน สามารถเริ่มต้นปรึกษากับทันตแพทย์จัดฟันได้ตั้งแต่ 7 ขวบ เพื่อขอรับคำปรึกษาเรื่องการจัดฟัน โดยทันตแพทย์จะเริ่มต้นตรวจสุขภาพปาก ฟัน และขากรรไกรอย่างละเอียด ด้วยการเอกซเรย์ เพื่อให้สามารถเห็นตำแหน่งของโครงสร้างฟัน และวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน เพื่อให้ผู้ปกครองรับทราบ และมีส่วนช่วยในการตัดสินใจรักษาได้อย่างดีที่สุด
